Sarah Brightman กับโชว์ไฮเทคยุคอวกาศ “Dreamchaser”

พอดีเมื่อวาน (31/07/2013) มีโอกาสไปดูโชว์สุดอลังการของนักร้องเสียงโซปราโนระดับโลกอย่าง ซาราห์ ไบรท์แมน เจ้าของบทคริสทีน นางเอกในเรื่อง Phantom of the Opera คนแรก ตั้งแต่เปิดการแสดงเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน (แถมยังมีดีกรีพ่วงท้ายเป็นอดีตภรรยาของ Andrew Lloyd Weber ผู้ประพันธ์ของละครเพลงเรื่องนี้อีกด้วย) ที่แวะมาแสดงที่เมืองไทย วันเดียว รอบเดียว แบบไม่ทันตั้งตัว เพราะเป็นที่สุดท้ายในการเดินสาย World Tour เพื่อโปรโมทอัลบั้ม Dreamchaser ของเธอที่จัดแสดงไปแล้วหลายสิบรอบทั่วโลก เลยต้องเก็บรายละเอียดมาเล่ากันหน่อย จะถูกผิดอย่างไรก็ถือเป็นความเห็นส่วนตัวในฐานะคนฟังธรรมดาๆ ไม่ใช่นักวิจารณ์ทางด้านนี้แต่อย่างใดนะครับ

เพลงที่เธอนำมาร้องส่วนใหญ่มาจากอัลบั้มชื่อเดียวกันที่เพิ่งออกเมื่อต้นปี เปิดด้วยเพลง Angel ซึ่งที่จริงแล้วถูกปล่อยออกมาเป็นเพลงเดี่ยวหรือ single ก่อนหน้า และอีกหลายๆ เพลงในอัลบั้มนี้ นอกนั้นก็เป็นเพลงจากอัลบั้มอื่นๆ ที่มีเนื้อร้องอาจไม่ยาวนัก แต่เปิดโอกาสให้เธอโชว์พลังเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ได้อย่างเต็มที่ เสียงสูงและใสกิ๊งแบบที่ถ้าไม่เห็นหน้าหรือรู้ประวัติก็ยากที่จะเดาอายุได้ (ที่จริงเธอก็ยังทำหน้าสวยอยู่ ถึงแม้จะเลยหลักสี่ไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม 😉 บางเพลงก็นำมาจากบทเพลงคลาสสิค เช่น Figlio Perduto ที่นำทำนองมาจากบางส่วนของท่อนที่สอง Allegretto ของ Symphony หมายเลข 7 ของบีโธเฟน (จากอัลบั้ม “La Luna” ของเธอในปี 2000) หรือ Song of India บทเพลงสั้นๆ ผลงานของริมสกี้ คอร์ซาคอฟ (Rimsky Korsakov) คีตกวีรัสเซีย จากอัลบั้มล่าสุด Dreamchaser หรือเพลงโฟล์คอย่าง Scarborough Fair ที่คุ้นหูคนทั่วไป (จากอัลบั้ม La Luna เช่นกัน) แต่ที่คนดูรู้จักกันดีและลุกขึ้นปรบมือให้อย่างยาวนานที่สุดก็หนีไม่พ้น Phantom of The Opera เพลงเอกประจำตัวของเธอ (ไม่รู้เธอจะเบื่อบ้างมั้ยที่ร้องเพลงนี้มาหลายพันหรือเป็นหมื่นเที่ยวแล้ว แต่คนก็ยังชอบมากกว่าเพลงใหม่ๆ ที่เธอตั้งใจจะนำมาเสนออยู่เรื่อย)

Sarah Brightman - Dreamchaser in Bangkok

เครดิตภาพ: Facebook คุณ Peter-pan Kamnuanthip (ผมนั่งไกล ถ่ายไม่ได้แบบนี้หรอกครับ 🙂

นอกจากเพลงและพลังเสียงของเธอแล้ว ระบบเสียงโดยรวมก็นับว่าใช้ได้ดีพอสมควรทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อผมไม่ได้คาดหวังไว้ก่อนว่าการแสดงที่ไปลงที่ BiTEC อย่างกระชั้นชิด ซึ่งไม่ใช่โรงละครหรือสถานที่ที่ออกแบบมาให้จัดแสดงดนตรี จะสามารถทำอะคูสติกออกมาได้ดีกว่าหลายๆ แห่งที่ไม่ใช่คอนเสิร์ทฮอลล์เหมือนกัน นอกจากนี้ยังรับรู้ถึงเอฟเฟ็คต์แสงสีที่วูบวาบอลังการแบบจัดเต็ม กับยกพื้นสำหรับที่นั่งแถวหลัง ไม่แน่ใจว่าลงทุนสร้างสำหรับงานนี้รอบเดียวหรือเปล่า แต่ไม่มีกล้องจับภาพโคลสอัพขึ้นจอใหญ่ ดังนั้นแถวหลังๆ จะเห็นเธอตัวเท่ามดแค่นั้น ;-(

ISS - International Space Station

ISS – International Space Station สถานีอวกาศนานาชาติ

หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่าทำไมเอฟเฟ็คต์ทั้งหลายทั้งหมดมันถึงมีแต่แนวอวกาศซะขนาดนั้น ยังกะภาพยนตร์ไซไฟทีเดียว ตรงนี้มาถึงบางอ้อเมื่อเห็นที่เธอจัดแถลงข่าวที่กรุงมอสโคว์ รัสเซีย เมื่อปลายปีที่แล้วว่าเธอมีแผนจะเป็นศิลปินอาชีพคนแรกที่เดินทางขึ้นไปร้องเพลงในอวกาศ โดยไปกับยานโซยุซของรัสเซีย เพื่อไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS – International Space Station) ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของหลายๆ ชาติ และโคจรอยู่รอบโลกโดยมีมนุษย์อวกาศไปปฏิบัติภารกิจประจำมาหลายปีแล้ว แถมยังเริ่มเปิดรับผู้ที่มีกำลังทรัพย์มากพอให้ลองขึ้นไปในอวกาศดูซักครั้ง ได้ยินมาว่าขนาดค่าเดินทางตกเที่ยวละเป็นสิบๆ ล้าน ก็ยังมีคนไทยแอบไปเข้าคิวอยู่อีกหลายคน จริงเท็จประการใดไม่ยืนยันนะครับ นี่อาจจะจัดว่าเป็นการไล่ตามความฝัน (dream chasing) อันหนึ่งของเธอก็เป็นไปได้ รวมทั้งเป็นการโปรโมทตัวเองในรูปแบบที่น่าสนใจ สมกับที่เป็นผู้ได้รับรางวัลศิลปินเพื่อสันติภาพ (Artist for Peace) ขององค์การ UNESCO เมื่อปีที่ผ่านมาทีเดียว

ว่าวันนี้จะเล่าเรื่องเพลง เรื่องดนตรี จะได้ใช้สมองซีกขวาซะบ้าง แต่ไหงลงท้ายมาที่เรื่องสถานีอวกาศ กลายเป็นเกี่ยวเอาเรื่องเทคโนโลยีที่ต้องใช้สมองซีกซ้ายไปจนได้ซิน่า 🙁