𝗙𝗼𝘂𝗻𝗱𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗦𝟭 𝗘𝗽𝟵 – 𝗗𝗼𝗲𝘀 𝗮 𝗰𝗹𝗼𝗻𝗲 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗮 𝘀𝗼𝘂𝗹?

𝑊𝑎𝑟𝑛𝑖𝑛𝑔 ! 𝑆𝑝𝑜𝑖𝑙𝑒𝑟𝑠 มีการเปิดเผยเนื้อหา

ในตอนที่ 9 ของ Foundation ซึ่งเป็นตอนก่อนจบ season นี้ เราได้เห็นการเติมรายละเอียดของแผนการที่จะโค่นอำนาจจักรพรรดิ ด้วยการทำให้ตัวโคลนคือจักรพรรดิหนุ่มน้อย Brother Dawn มีความผิดพลาดทางพันธุกรรมโดยจงใจ เช่น ตาบอดสี ถนัดซ้าย เพื่อให้รู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะเกรงจะถูกกำจัด จนต้องหนีออกจากวัง ดูเหมือนหนังจะจงใจเล่นกับประเด็นของตัว clone ว่ามีความเป็นตัวของตัวเองหรือเจตจำนงเสรี (freewill) รวมถึงความสำนึก (conscious) และอาจรวมถึงจินตนาการ (imagination) ด้วย ได้ในขอบเขตเพียงไหน ไม่ใช่แค่เทียบกับมนุษย์ปกติทั่วไป แต่คู่ขนานไปกับคำถามเดียวกันนี้ที่จะถามหุ่นยนต์ที่มีสมองเป็นระบบ AI อย่าง Demerzel ด้วย ซึ่งประเด็นเหล่านี้ไม่เคยปรากฏในฉบับนิยาย Foundation 3 เล่มแรก ซึ่งอาจเป็นเพราะ อาซิมอฟเขียนเรื่องชุดนี้ขึ้นก่อนนิยายชุดหุ่นยนต์ คือตั้งแต่ทศวรรษ ’40 – ’50 ซึ่งเป็นยุคที่เพิ่งเริ่มมีคอมพิวเตอร์ใช้ และยังไม่มีการพูดถึงปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ในรายละเอียดมากนัก

แต่ประเด็นเหล่านี้เองที่ถูกอ้างอิงถึงมากมายในชุดไตรภาคของสถาบันสถาปนาที่สอง (Second Foundation trilogy) หรือเล่ม 8-10 ที่ถูกเขียนต่อในยุคปี 2000 ซึ่งมีทั้งประเด็นที่ AI ถกเถียงกันเรื่องตัวตน และรวมถึงการต่อสู้ระหว่างหุ่นยนต์ต่างลัทธิ คือพวกที่นับถือกฎข้อที่ 0 ที่ให้หุ่นยนต์มีหน้าที่ที่จะต้องพิทักษ์มนุษยชาติโดยรวม (humanity) โดยสำคัญกว่าการพิทักษ์มนุษย์ (human) คนใดหรือกลุ่มใด ตามกฎสามข้อของหุ่นยนต์ที่มีมาแต่เดิม ดูแล้วเหมือนหนังจะพยายามเอาประเด็นเหล่านี้ ซึ่งแต่เดิมในหนังสือจะค่อนข้างแปลกแยก เพราะเขียนขึ้นทีหลัง เข้ามารวมเล่าไปพร้อมๆ กัน ไม่แน่ว่าการต่อสู้กันของหุ่นยนต์ 2 ลัทธินี้จะเป็นส่วนหนึ่งของ Robot war ที่จักรพรรดิผู้อาวุโส Brother Dusk อ้างถึงในตอนที่อธิบายรูปจิตรกรรมฝาผนัง (Mural painting) หรือไม่ เพราะถึงจะเป็นสงครามระหว่างหุ่นยนต์ ยังไงสุดท้ายแล้วมนุษย์ก็คงเข้าไปเกี่ยวข้องกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายด้วยอยู่ดี

สุดท้ายแล้วข้อที่จะตัดสินว่าจักรพรรดิผู้เยาว์ Brother Dawn จะรอดไปได้หรือไม่ ไม่ใช่ความผิดที่หนีออกจากวัง แต่กลายเป็นเรื่องที่ว่าระบบ cloning ที่สืบทอดกันมาจะจัดการอย่างไรกับความบกพร่องหรือเบี่ยงเบนทางพันธุกรรมที่ถูกทำให้เกิดขึ้นนี้ต่างหาก ซึ่งค่อนข้างจะซับซ้อน เพราะถ้ายอมรับได้ก็เท่ากับว่ายอมให้มีความผิดเพี้ยนได้ ซึ่งจะทำลายความยึดมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ของสายพันธุ์ Cleon เปิดช่องให้คนอื่น คนที่พันธุกรรมไม่เหมือน Cleon ขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ แต่ถ้าจะกำจัดความผิดพลาดนี้เสีย แล้วเอาตัวโคลนใหม่ขึ้นมาใช้แทนตามที่มีแผนสำรองไว้ ก็ไม่รู้ว่าตัวโคลนอื่นๆ นั้นถูกผู้ก่อการร้ายทำให้ผิดเพี้ยนไปหมดด้วยหรือเปล่า ดีไม่ดีอาจจะต้องไปโคลนจากจักรพรรดิ Brother Day คนปัจจุบันมาใหม่แทน ข้อสรุปของประเด็นนี้คงต้องตามกันต่อไป

อีกจุดหนึ่งที่น่าสังเกตคือ ฉาก flashback บทสนทนาของซัลวอร์ ฮาร์ดิน ในวัยเยาว์ กับพ่อ ซึ่งเล่าถึงตำนานที่ว่ามนุษย์ทั่วทั้งกาแลกซีสืบเชื้อสายมาจากเผ่าพันธุ์ที่เคยอาศัยอยู่บนดาวดวงเดียวกัน คาดว่าจะเป็นการเตรียมสำหรับพล็อตเรื่องการตามหา “โลก” หรือพิภพต้นกำเนิดของมนุษย์ ที่ถูกลืมเลือนไปนับหมื่นปีมาแล้ว ซึ่งปรากฏเป็นเหตุการณ์สุดท้ายที่แยกออกมาต่างหากในหนังสือ (และไม่ค่อยจะเข้ากับเล่มอื่นๆ ซักเท่าไหร่) คือในเล่ม 5 Foundation and Earth หลังการเผชิญหน้ากันระหว่างสถาบันสถาปนาแห่งที่หนึ่งและสองในเล่ม 4 Foundation’s Edge ก็เป็นประเด็นที่สามารถนำมาเล่าได้อาจจะหลายตอนหรือทั้ง season เลยทีเดียว

ส่วนเรื่องที่ว่า The Vault เปิดมาแล้วมีอะไร และวิกฤติการเซลด็อนครั้งที่ 1 หรือ The First Crisis ที่กำลังจะเฉลยในตอนจบของ episode พอดีนั้น จะคลี่คลายไปในรูปแบบใด ขอยกยอดไปเล่ารวมกับ episode 10 ซึ่งเป็น ep. สุดท้ายของ season เลยน่าจะดีกว่าครับ

ปล. ในบทความตอนก่อนๆ ผมเคยเดาว่ายาน Invictus (ซึ่งในหนังสืออ้างถึงผ่านๆ นิดเดียวแบบไม่มีชื่อยานด้วย) นี่จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแสนยานุภาพทางทหารของสถาบันสถาปนา ดูท่าจะเป็นจริงตามนั้น

#Foundation#AppleTVPlus#asimov